17 กันยายน 2552

จากเส้นใยฝ้าย...สู่ผ้าไตรจีวร งานบุญจุลกฐิน...ที่ตากฟ้า

อำเภอตากฟ้าร่วมกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และพ่อค้าประชาชน ได้กำหนดจัดงานบุญมหากุศลพิธีทอดผ้าจุลกฐิน เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดประเพณีสำคัญทางพุทธศาสนาให้เป็นเอกลักษณ์ของชาวอำเภอตากฟ้าเป็นประจำทุกปีต่อไป ในปีนี้คณะกรรมการกำหนดจัดงานขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2552 ณ วัดโคกขามสามัคคีธรรม ต.อุดมธัญญา อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ในการดังกล่าวได้มีพิธีปลูกฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า 2 ไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้ได้ปุยฝ้ายนำมาทอผ้าไตรจีจร โดยศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์และให้คำแนะนำในการดูแลรักษา จะเริ่มเก็บปุยฝ้ายได้ประมาณวันที่ 15 ตุลาคม นี้
คำว่าจุลกฐินนั้น คือ คำเรียกการทอดกฐินที่ต้องทำด้วยความรีบด่วน โดยต้องอาศัยความสามัคคีของผู้ศรัทธาจำนวนมาก เพื่อผลิตผ้าไตรจีวรให้สำเร็จด้วยมือภายในวันเดียว กล่าวคือ ต้องเริ่มตั้งแต่เก็บฝ้าย ปั่นฝ้าย ทอผ้า ย้อมและตัดเย็บ และถวายให้พระสงฆ์กรานกฐินให้เสร็จภายในเวลาเช้าวันหนึ่งจนถึงย่ำรุ่งของอีกวันหนึ่ง ดังนั้นโบราณจึงนับถือกันว่าการทำจุลกฐินมีอานิสงส์มาก เพราะต้องใช้ความอุตสาหะพยายามมากกว่ากฐินแบบธรรมดา (มหากฐิน) ภายในระยะเวลาอันจำกัด โดยจุลกฐินนี้ปัจจุบันมักจัดเป็นงานใหญ่อาศัยความร่วมมือของคนทั้งชุมชนและ มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก สาเหตุประการหนึ่งที่มีการทำจุลกฐิน เนื่องมาจากกำหนดการกรานกฐินนั้นมีระยะเวลาจำกัด และพระสงฆ์ไม่สามารถขวนขวายดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผ้ากฐินเองได้ เพราะจะทำให้กฐินเดาะ (สังฆกรรมเสีย) จึงอาจมีบางวัดที่ใกล้กำหนดหมดฤดูกฐินแต่ยังไม่มีผู้นำผ้ากฐินมาถวาย ทำให้ในสมัยก่อนเมื่อใกล้เดือน ๑๒ (หมดฤดูกฐิน) มักจะมีผู้ศรัทธาตระเวนไปตามวัดต่าง ๆ เมื่อเจอวัดที่ยังไม่ได้รับถวายผ้ากฐิน จึงต้องเร่งรีบขวนขวายจัดการทำผ้ากฐินให้เสร็จทันฤดูกฐินหมด ซึ่งบางครั้งอาจเหลือเวลาแค่วันเดียว จึงต้องร่วมกันจัดทำผ้าไตรจีวรให้สำเร็จก่อนหมดฤดูกฐิน

ผวจ.นครสวรรค์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และนายอำเภอตากฟ้าปลูกฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า 2 ณ วัดโคกขามสามัคคีธรรม เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.52
แปลงฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า 2 อายุประมาณ 80 วัน ภายในบริเวณวัดโคกขามสามัคคีธรรม กำลังออกดอก ติดสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เนื้อหา