15 พฤศจิกายน 2560

การจัดการดิน ปุ๋ยและเศษซากพืช ในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

การจัดการดิน ปุ๋ย และเศษซากพืชอย่างเหมาะสม สามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินอย่างยั่งยืน

สมบัติของดินที่เหมาะสม
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถปลูกในดินร่วน ร่วนปนทราย ร่วนเหนียว ดินเหนียว ที่มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง- สูง มีการระบายน้ำดี ค่าความเป็นกรด-ด่าง 5.5-7.5

ความต้องการธาตุอาหารของข้าวโพด
        ปริมาณธาตุอาหารที่ข้าวโพดดูดใช้ เพื่อสร้างผลผลิต 1 ตันต่อไร่
     -ไนโตรเจน 18 กก. N/ไร่
     - ฟอสฟอรัส       3.5 กก. P/ไร่
                            8 กก. P2O5 /ไร่
     - โพแทสเซียม   9 กก. K/ไร่
                           11 กก. K2O/ไร่

ปริมาณธาตุอาหารในเศษซาก ต้น ใบข้าวโพดที่ให้ผลผลิต 1 ตัน/ไร่
คาร์บอน        600 กก. C/ไร่
ไนโตรเจน         5 กก. N/ไร่
ฟอสฟอรัส 0.6 กก. P/ไร่ ( 1.4  กก. P2O5/ไร่ )
โพแทสเซียม    4 กก. K/ไร่ ( 4.8  กก. K2O/ไร่ )
          คิดเป็นต้นทุนธาตุอาหารจากปุ๋ยเคมี  330 บาท/ไร่

การจัดการดิน 
  • คลุกเมล็ดด้วยปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์  1  ถุง  (500 กรัม)  ต่อเมล็ด  3-5  กก. 
  • ใส่ปุ๋ยรองพื้นพร้อมปลูก  ด้วยปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบทั้ง  N  P  K  เพื่อให้พืชตั้งตัวได้ดี
  • ใส่ปุ๋ยครั้งที่  2  ให้ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเมื่อข้าวโพดอายุ  20-30  วัน  เพื่อเตรียมต้นให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับการออกดอก
  • หลังเก็บเกี่ยว ควรไถกลบเศษซากข้าวโพด เพื่อให้ธาตุอาหารกลับคืนสู่ดิน ช่วยรักษาดินไม่ให้เสื่อมโทรม

              
         ++ระยะเริ่มงอก  พืชใช้ธาตุอาหารปริมาณน้อย ระยะออกดอกและติดฝัก  พืชเจริญเติบโตสูงสุด การดูดใช้ธาตุอาหารเริ่มลดน้อยลง++


< การใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ สามารถลดการใช้ปุ๋ย  N  P  K  ได้  25% 
< การใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์  เพิ่มผลผลิตได้  10%  และลดต้นทุนได้  20%
< การไถกลบเศษซากข้าวโพดกลับลงไปในดิน  ช่วยรักษาคุณภาพดิน ทำให้การผลิตข้าวโพดมีความยั่งยืน


ข้อมูล : กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร

เนื้อหา