การจัดการดิน ปุ๋ย และเศษซากพืชอย่างเหมาะสม สามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินอย่างยั่งยืน
สมบัติของดินที่เหมาะสม
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถปลูกในดินร่วน ร่วนปนทราย ร่วนเหนียว ดินเหนียว ที่มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง- สูง มีการระบายน้ำดี ค่าความเป็นกรด-ด่าง 5.5-7.5
ความต้องการธาตุอาหารของข้าวโพด
ปริมาณธาตุอาหารที่ข้าวโพดดูดใช้ เพื่อสร้างผลผลิต 1 ตันต่อไร่
-ไนโตรเจน 18 กก. N/ไร่
- ฟอสฟอรัส 3.5 กก. P/ไร่
8 กก. P2O5 /ไร่
- โพแทสเซียม 9 กก. K/ไร่
11 กก. K2O/ไร่
ปริมาณธาตุอาหารในเศษซาก ต้น ใบข้าวโพดที่ให้ผลผลิต 1 ตัน/ไร่
คาร์บอน 600 กก. C/ไร่
ไนโตรเจน 5 กก. N/ไร่
ฟอสฟอรัส 0.6 กก. P/ไร่ ( 1.4 กก. P2O5/ไร่ )
โพแทสเซียม 4 กก. K/ไร่ ( 4.8 กก. K2O/ไร่ )
คิดเป็นต้นทุนธาตุอาหารจากปุ๋ยเคมี 330 บาท/ไร่
การจัดการดิน
- คลุกเมล็ดด้วยปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1 ถุง (500 กรัม) ต่อเมล็ด 3-5 กก.
- ใส่ปุ๋ยรองพื้นพร้อมปลูก ด้วยปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบทั้ง N P K เพื่อให้พืชตั้งตัวได้ดี
- ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ให้ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเมื่อข้าวโพดอายุ 20-30 วัน เพื่อเตรียมต้นให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับการออกดอก
- หลังเก็บเกี่ยว ควรไถกลบเศษซากข้าวโพด เพื่อให้ธาตุอาหารกลับคืนสู่ดิน ช่วยรักษาดินไม่ให้เสื่อมโทรม
++ระยะเริ่มงอก พืชใช้ธาตุอาหารปริมาณน้อย ระยะออกดอกและติดฝัก พืชเจริญเติบโตสูงสุด การดูดใช้ธาตุอาหารเริ่มลดน้อยลง++
< การใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ สามารถลดการใช้ปุ๋ย N P K ได้ 25%
< การใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ เพิ่มผลผลิตได้ 10% และลดต้นทุนได้ 20%< การไถกลบเศษซากข้าวโพดกลับลงไปในดิน ช่วยรักษาคุณภาพดิน ทำให้การผลิตข้าวโพดมีความยั่งยืน
ข้อมูล : กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร