14 พฤษภาคม 2557

ผลกระทบของสารกำจัดวัชพืชที่ใช้ในการเกษตร

การใช้สารกำจัดวัชพืช หรือ ยาฆ่าหญ้า มีวัตถุประสงค์เพื่อกำจัดวัชพืชที่ขึ้นในแปลงปลูกทั้งบนดินและใต้ดิน เพื่อไม่ให้ไปแย่งปัจจัยการเจริญเติบโตจากพืชปลูก เป็นวิธีการที่เกษตรกรนิยมปฏิบัติ เนื่องจากสะดวก ให้ผลรวดเร็ว ไม่ต้องใช้แรงงานมาก

การใช้สารกำจัดวัชพืชต้องมีความรู้และใช้ให้ถูกต้อง สารกำจัดวัชพืชมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการเข้าทำลายในพืชต่าง ๆ กัน การใช้สารกำจัดวัชพืชให้ถูกชนิดและใช้ให้ถูกวิธีตามคำแนะนำ ทำให้สารมีประสิทธิภาพในการกำจัดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อพืชที่ปลูก พืชชนิดอื่นในพื้นที่ข้างเคียง สิ่งแวดล้อม หรือต่อผู้ใช้เอง

ผลกระทบจากการใช้สารกำจัดวัชพืชที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักพบในช่วงต้นฤดูปลูก เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เกิดจากละอองสารกำจัดวัชพืชที่เกษตรกรพ่นเพื่อควบคุมวัชพืชในแปลงปลูกปลิวไปทำความเสียหายแก่พืชปลูกในพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียง เช่น การพ่นสารกำจัดวัชพืช อมิทริน อทราซีน หรือ ทูโฟว์ดี เพื่อกำจัดวัชพืชในไร่อ้อย มักส่งผลกระทบต่อพืชปลูกชนิดอื่น มันสำปะหลัง พริก และพืชใบกว้างอีกหลายชนิดมีความอ่อนแอต่อสารดังกล่าวและมักได้รับผลกระทบในแต่ละปี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ในพื้นที่ที่มีการปลูกพืชต่างชนิดในบริเวณใกล้เคียงกัน เกษตรกรที่จะใช้สารกำจัดวัชพืช ควรศึกษาวิธีการใช้สารโดยอ่านจากฉลากอย่างละเอียด และเพิ่มความระมัดระวังในการใช้สารกำจัดวัชพืชมากขึ้น มีการพูดคุยทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการปลูกพืชหรือก่อนที่จะมีการพ่นสารกำจัดวัชพืช เพื่อป้องกันความเสียหายและลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างเกษตรกรด้วยกัน หากยังไม่เข้าใจในการใช้สารกำจัดวัชพืช สามารถขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหา