7 ตุลาคม 2553

โรคราน้ำค้างของข้าวโพด

จนถึงปัจจุบัน โรคราน้ำค้าง หรือ โรคใบลาย ยังเป็นโรคที่มีความสำคัญที่สุดของข้าวโพด โรคราน้ำค้างจะระบาดรุนแรงมากเมื่อมีสภาพแวดล้อมเหมาะสม โดยเฉพาะในพันธุ์อ่อนแอต่อโรคและได้รับเชื้อขณะที่ต้นข้าวโพดยังเล็ก ทำให้ผลผลิตเสียหายถึง 100 เปอร์เซนต์
ข้าวโพดหวานและข้าวโพดเทียนมีความอ่อนแอต่อโรคมาก ในข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้มีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดให้มีความต้านทานต่อโรค แนะนำให้เกษตรปลูก เช่น  พันธุ์ลูกผสมนครสวรรค์ 3

ในแหล่งที่โรคราน้ำค้างระบาดไม่รุนแรง สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงเนื่องจากมีฝนตกชุกหนาแน่น มีผลทำให้โรคราน้ำค้างระบาดรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจะไม่มีการปลูกเชื้อในแปลงทดสอบ การปลูกข้าวโพดหวานซึ่งมีความอ่อนแอต่อโรคสามารถเป็นแหล่งแพร่เชื้อ (source of inoculum)ให้กับข้าวโพดที่ปลูกในบริเวณเดียวกัน ทำให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นโรคมากขึ้น


ภาพที่ 1


ภาพที่ 2
ภาพที่ 1 และ ภาพที่2 อาการของโรคราน้ำค้าง (typical symptom)เกิดเป็นแถบสีขาว เขียวอ่อนหรือเหลืองอ่อนตามความยาวของใบ แถบดังกล่าวอาจยาวติดต่อกันไปหรือขาดเป็นช่วง


ภาพที่ 3 เมื่อเชื้อเข้าทำลายตั้งแต่ต้นเล็ก จะพบลักษณะอาการเป็นปื้นสีเหลืองกือบทั้งใบ หรือใบของส่วนยอดมีสีเหลืองทั้งใบ


ภาพที่ 4


ภาพที่ 5
ภาพที่ 4 และ ภาพที่ 5 ในตอนเช้าจะเห็นผงสีขาวซึ่งเป็นเส้นใยและสปอร์ของเชื้อทั้งบนใบและใต้ใบ


ภาพที่ 6 เมื่อเขี่ยผงสีขาวจากใบมาตรวจสอบ พบ cornidia จำนวนมาก ในภาพ cornidia งอก สร้าง germ tube


ภาพที่ 7 ต้นเป็นโรค


ภาพที่ 8 อาการเริ่มแรกของโรคใบไหม้แผลใหญ่ที่มีลักษณะเป็นแผลสีเหลือง เกิดบนใบที่เป็นโรคราน้ำค้าง


ภาพที่ 9 ในสภาพที่มีการระบาดของโรคตามธรรมชาติ ข้าวโพดลูกผสมพันธุ์การค้าเป็นโรครุนแรง ไม่สร้างเกสรตัวผู้และฝัก (แถวซ้าย)
ข้าวโพดลูกผสม NSX062006 ต้านทานต่อโรคราน้ำค้าง (แถวขวา)


ภาพที่ 10 ในสภาพที่มีการระบาดตามธรรมชาติ ข้าวโพดสายพันธุ์แท้ตากฟ้า 1 ต้านทานต่อโรค (แถวซ้าย)
เปรียบเทียบกับข้าวโพดสายพันธุ์แท้ที่อ่อนแอต่อโรค (แถวขวา)

21 กันยายน 2553

อบรมการเลือกพันธุ์มันสำปะหลัง และการผลิตท่อนพันธุ์มันสะอาด

เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร ได้จัดให้มีการฝึกอบรม เรื่อง “การจัดการพันธุ์มันสำปะหลังให้เหมาะสมกับพื้นที่โดยการใช้ท่อนพันธุ์มันฯ สะอาด” ณ อาคารเอนกประสงค์ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ โดยมี นายพิเชษฐ์ กรุดลอยมา ผอ. ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ เป็นประธานในการเปิดการฝึกอบรม

วัตถุประสงค์ของการอบรมเพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังมีความรู้ในการเลือกพันธุ์มันสำปะหลังที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ปลูกของตน เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง และเรียนรู้วิธีการสำรวจและการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งเพื่อไม่ให้มีการระบาดในแปลงปลูก ทำให้เกษตรกรมีท่อนพันธุ์ที่ปราศจากเพลี้ยแป้งสำหรับปลูกและเป็นแหล่งกระจายท่อนพันธุ์ให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ

มีเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจากจังหวัดชัยนาท นครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง เข้ารับการอบรม จำนวน 120 ราย การอบรมครั้งนี้นอกจากจะให้ความรู้ด้านการเลือกพันธุ์มันสำปะหลังแล้ว นางสาวอมรา ไตรศิริ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ได้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง

1 กันยายน 2553

เห็ดโคน...หนึ่งปีมีหนเดียว

เห็ดโคน Termite mushroom (Termitomyces fuliginosus Heim)
เป็นเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อมีความชื้นและอุณหภูมิที่พอเหมาะ เห็ดโคนมีขนาด และสีของหมวกเห็ดที่แตกต่างกัน เช่น สีน้ำตาล น้ำตาลแดง ขาว และสีออกชมพู ขึ้นกับสภาพแวดล้อม และแหล่งที่พบ เห็ดโคน มีกลิ่นและรสชาดเฉพาะตัว

เห็ดโคนมีความสัมพันธ์กับปลวก มักเกิดตามที่ที่มีปลวกอาศัยอยู่ ในพื้นที่แถบจังหวัดนครสวรรค์ ประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน เป็นช่วงที่เราสามารถพบเห็ดโคน

นักเก็บเห็ดโคนจะรู้ดีว่า วันเวลาไหน ตลอดจนสถานที่แห่งใด ที่จะสามารถพบเห็ดโคน เห็ดโคนมักจะขึ้นที่เดิม ใกล้เคียงกับสถานที่เดิม หรือจะมีการย้ายที่ใหม่ขึ้นอยู่กับปลวก  และมักพบในระยะเวลาใกล้เคียงกันในแต่ละปี

สำหรับที่ที่เคยพบเห็ดโคน เมื่อถึงฤดูเห็ดโคน อย่าลืมสำรวจให้ดี ในตอนเช้าและเย็น ไม่แน่ เราอาจพบเห็ดโคนขึ้นละลานตา ที่ริมรั้ว หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน โดยที่ไม่ต้องเดินป่า หรือออกไปหาไกล แค่นี้ ก็ทำเอานักเก็บเห็ดมือสมัครเล่นตื่นเต้นไปหลายวัน

วันนี้คุณพบและกินเห็ดโคน หรือยัง?









27 สิงหาคม 2553

ฝนตกชุก...โรคกาบและใบไหม้ของข้าวโพดระบาดรุนแรง

สภาพที่มีฝนตกชุกติดต่อกัน ส่งผลให้มีความชื้นสูง มักพบการระบาดของโรคกาบและใบไหม้ (banded leaf and sheath blight) ค่อนข้างรุนแรง

สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Rhizoctonia solani Kuhn.

ลักษณะอาการ
กาบหุ้มที่โคนต้นมีรอยฉ่ำน้ำสีเขียวอมเทา เน่ากลายเป็นสีน้ำตาล ลุกลามไปยังกาบของลำต้นที่อยู่สูงขึ้นไป และขยายไปสู่โคนใบ ทำให้ใบไหม้ขยายไปตามทางยาวของใบ เมื่อแสงแดดจัด ความชื้นน้อยเชื้อราก็จะหยุดการเจริญ จึงเห็นเป็นแผลแห้งเหมือนแดดเผา มีขอบสีน้ำตาลขวางตามใบเป็นชั้น ๆ เมื่อถึงเวลากลางคืนอากาศเย็นความชื้นสูง แผลก็ขยายไหม้ลามต่อไปตามสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญของเชื้อรา จึงเห็นใบข้าวโพดที่เป็นโรคนี้เป็นลายคราบตามขวางของใบเป็นชั้นคล้ายคราบงู จะพบเส้นใยของเชื้อราบนส่วนที่เป็นโรค

การแพร่ระบาด
สาเหตุของการเกิดโรคและแพร่ระบาดคือเม็ดสเคลอโรเทีย (sclerotia) ของเชื้อซึ่งอยู่ในดินและซากหญ้า พืชอาศัยที่ขึ้นอยู่บริเวณใกล้เคียงข้าวโพด การระบาดของโรคไปยังต้นอื่นๆ โดยการสัมผัสของใบที่เป็นโรคกับส่วนต่าง ๆ ของต้นปกติ
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อสาเหตุประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 90-100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าความชื้นสัมพัทธ์ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ พบการเกิดโรคน้อย

การป้องกันกำจัด
1. ใช้เมล็ดพันธุ์จากต้นที่สมบูรณ์และปราศจากโรค
2. หมั่นตรวจไร่อยู่เสมอในระยะต้นข้าวโพดอายุได้ 40-50 วัน เมื่อพบโรคระบาดให้ถอนและเผาทำลาย ในระยะออกฝัก หากพบฝักเป็นโรคมีเม็ดเชื้อราสาเหตุลักษณะคล้ายเม็ดผักกาด เมื่อเก็บไปทำลายพยายามอย่าให้เม็ดเชื้อราร่วงหล่นในแปลงเพราะจะแพร่โรคต่อไป
3. ทำลายเศษเหลือของต้นข้าวโพดหลังการเก็บเกี่ยว ก่อนปลูกฤดูต่อไปให้ไถพลิกดินขึ้นมาตากแดดหลาย ๆ ครั้ง เติมอินทรีย์วัตถุในแปลงปลูก เตรียมดินให้มีการระบายน้ำดี
4. หลีกเลี่ยงการปลูกพืชหนาแน่น  วางแนวของแถวปลูกทิศทางเดียวกับลม เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
5. ลดการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนปริมาณสูง
ุ6. ปลูกพืชหมุนเวียนที่ไม่ใช่พืชอาศัย พืชอาศัยของโรคนี้ได้แก่ ข้าว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วต่าง ๆ และอ้อย
7. เพิ่มอินทรีย์วัตถุในแปลงปลูกและเพิ่มเชื้อจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ เช่น Trichoderma harzianum จุลินทรีย์เหล่านี้สามารถเจริญแข่งขันและย่อยสลายเส้นใยของเชื้อราสาเหตุโรคนี้ได้


เชื้อสาเหตุ : Rhizoctonia solani






การระบาดของโรคสู่ต้นข้างเคียง โดยใบจากต้นเป็นโรคสัมผัสกับใบของต้นปกติ





ในสภาพที่ความชื้นสูง จะพบเส้นใยของเชื้อสาเหตุบนส่วนเป็นโรค แล้วพัฒนาเป็น sclerotia ซึ่งเป้นส่วนขยายพันธุ์  ตกค้างอยู่ในดิน


ลักษณะ sclerotia ของเชื้อสาเหตุ

- - - - -
ข้อมูล:เอกสารวิชาการโรคข้าวโพด กองโรคพืชและจุลชีววิทยา กรมวิชาการเกษตร

24 สิงหาคม 2553

ฝนตกชุก..ระวังการระบาดของโรคใบไหม้ในมันสำปะหลัง

สภาพภูมิอากาศในช่วงนี้ที่มีฝนตกชุกติดต่อกัน ส่งผลให้มีความชื้นในบรรยากาศสูง เหมาะสมต่อการแพร่ระบาดของโรคใบไหม้ในมันสำปะหลัง ซึ่งได้รับรายงานการระบาดในหลายพื้นที่
ลักษณะอาการเริ่มแรก ใบเป็นจุดเหลี่ยม ฉ่ำน้ำ ต่อมาใบไหม้แห้ง ถ้ารุนแรงยอดจะแห้งตาย ทำให้ผลผลิต เปอร์เซ็นต์แป้ง และคุณภาพท่อนพันธุ์ลดลง
สภาพแวดล้อมมีผลต่อการระบาดของโรคใบไหม้เป็นอย่างมาก ปีที่มีฝนตกชุกหนาแน่น โรคจะระบาดรวดเร็วและรุนแรง นอกจากนี้ความรุนแรงของโรคยังขึ้นกับพันธุ์มันสำปะหลัง พันธุ์ระยอง 5 ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรค แต่ไม่ถึงกับทำให้ต้นตาย
เมื่อพ้นฤดูฝนการระบาดของโรคจะลดลง การป้องกันกำจัดให้ทำลายเศษซากพืชโดยการเผาหรือฝัง ปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อตัดวงจรของโรค ไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัด





16 สิงหาคม 2553

ถั่วเหลืองฝักสด แหล่งโปรตีน ราคาถูก

โดย นัฐภัทร์ คำหล้า

ในยุคที่สินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ราคาปรับตัวสูงขึ้นแบบรายวันเช่นนี้ การหารายได้เพิ่มจากการปลูกพืช น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง นอกจากพืชผักที่เห็นปลูก และขายกันเกลื่อนเมืองแล้ว มีพืชไร่อายุสั้นอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ และเป็นพืชทางเลือกใหม่ที่จะเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรในระยะสั้น นั่นคือ ถั่วเหลืองฝักสด

ถั่วเหลืองฝักสด หรือ “ถั่วแระญี่ปุ่น” เป็นถั่วเหลืองที่มีฝักขนาดใหญ่ บริโภคในระยะที่ฝักเริ่มแก่ เมล็ดโตเต็มที่ นั่นคือเมล็ดมีความเต่งและมองเห็นเมล็ดเต็มฝัก ในขณะที่ฝักยังคงมีสีเขียว รสชาติหวานบริโภคได้ทั้งฝักสดหรือต้มรับประทาน

การปลูกถั่วเหลืองฝักสด ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากการปลูกถั่วเหลืองไร่ เพียงแต่เก็บเกี่ยวในช่วงระยะที่มีฝักถั่วเต่งเต็มที่ประมาณร้อยละ 80 ในขณะที่ฝักยังมีสีเขียวสด อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 62-68 วัน โดยมีพันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่ พันธุ์เอจีเอส 292 และ NO.75 ซึ่งนิยมปลูกเพื่อการส่งออก ส่วนพันธุ์ที่ปลูกแล้วบริโภคภายในประเทศได้แก่พันธุ์เชียงใหม่ 1 และนครสวรรค์ 1 ปกติการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองฝักสดควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้า โดยใช้เคียวเกี่ยวต้นถั่วทั้งต้น แล้วนำไปวางในที่ร่มเพื่อเด็ดใบและก้านออก ให้
เหลือเฉพาะต้นและฝัก จากนั้นจึงมัดต้นถั่วเป็นมัด ๆ ละ 5 กิโลกรัม เพื่อรอการส่งตลาด จำหน่ายต่อไป

อนึ่ง ช่วงระยะเวลาการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองฝักสดที่เหมาะสม และมีคุณภาพดี จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 2 - 3 วันเท่านั้น หลังจากนั้นฝักถั่วจะแก่เกินไป ดังนั้น การปลูกถั่วเหลืองฝักสดจึงต้องมีการวางแผนการปลูก การเก็บเกี่ยวและการตลาดที่ดี จึงจะได้ผลผลิตถั่วเหลืองฝักสดที่มีคุณภาพดีตามความต้องการของลูกค้า

ถั่วเหลืองฝักสด นับว่าเป็นแหล่งโปรตีนราคาถูก เมื่อเทียบกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ยังมีสารไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ลดอาการวัยทอง มีใยอาหารสูง มีวิตามิน A B และ C และแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ เช่น เหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเบต้าแคโรทีน

เห็นสรรพคุณมากมายแล้ว วันนี้คุณกินถั่วเหลืองหรือยัง ?

จากพันธุ์ฝ้ายสู่เส้นด้ายและผืนผ้า

โดย ปริญญา สีบุญเรือง

พื้นที่ปลูกฝ้ายหายวับไปกับตามาหลายปีแล้ว
....... กลับมาพลิกฟื้นคืนชีวิตให้ฝ้ายกันเถิด

อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ที่มีความรับผิดชอบในเรื่องเรื่องงานวิจัยฝ้ายแล้ว ยังเคยเป็นพื้นที่ปลูกฝ้ายแหล่งใหญ่ของประเทศ

ฝ้าย...พืชต้นเล็กๆ แต่ปลูกและดูแลรักษายาก ต้องการความเอาใจใส่จากเจ้าของมากกว่าพืชชนิดอื่น จนมีคำกล่าวกันว่าหากเกษตรกรคนไหนเคยปลูกฝ้ายมาแล้ว ก็จะสามารถปลูกพืชได้ทุกชนิด ดังนั้น พื้นที่การปลูกฝ้ายของประเทศที่มีนับแสนไร่ ในช่วงปี 2540-2545 จึงค่อยๆเลือนหายไป จนเหลือเพียงไม่ถึงหมื่นไร่ในปัจจุบัน ทั้งนี้เนื่องจากราคาฝ้ายที่ไม่แน่นอน และมีพืชแข่งขันชนิดใหม่ ๆ ที่ดูแลง่ายกว่า แต่ทำรายได้ที่ดีกว่า

ไทยจึงเป็นประเทศผู้นำเข้าฝ้ายมากอันดับที่ 6 ของโลก ฉะนั้นผู้ที่เคยปลูกฝ้ายมาแล้วควรภูมิใจ ที่ได้ช่วยประเทศในการรักษาเงินตรา มิให้รั่วไหลไปกับการซื้อปุยฝ้ายจากต่างประเทศ เพื่อผลิตเครื่องนุ่งห่มของเรา โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มที่อยู่ในวิถีการผลิตจากหัตถกรรมพื้นบ้านของไทย แต่กลับไม่ได้ใช้ปุยฝ้ายที่ผลิตมาจากชุมชนของตนเอง

ในความจริงแล้ว เรายังมีฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า 3 ซึ่งคัดเลือกมาจาก ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองของไทยที่ง่ายต่อการปลูก และดูแลรักษา เนื่องจากมีลักษณะต้นขนไปขน และต่อมพิษที่มีจำนวนมาก ทำให้สามารถป้องกันแมลงศัตรูบางชนิดได้ เกษตรกรไม่จำเป็นต้องพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงตลอดฤดูปลูกเหมือนการปลูกฝ้ายทั่วไป จึงเป็นโอกาสและทางเลือกใหม่ของเกษตรกรที่จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ปลูกฝ้าย และกลุ่มผู้ปั่นด้าย เพื่อผลิตวัตถุดิบให้แก่กลุ่มผู้ทอผ้าในหมู่บ้านเดียวกันหรือต่างหมู่บ้าน

จากวิกฤตการณ์โลกร้อน ซึ่งร้อนจนสามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นผิดปกติในชีวิตประจำวัน ผ้าฝ้ายคือวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มประจำวัน ทั้งนี้เพราะผ้าฝ้ายสามารถดูดซับเหงื่อได้ดี และสามารถระบายความร้อนออกจากเส้นใยได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่เกิดการหมักหมมที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวหนังผู้สวมใส่ อีกทั้งผ้าฝ้ายที่ย้อมด้วยคราม หรือต้นฮ่อมจนเป็นสีน้ำเงิน สามารถปกป้องรังสียูวีจากแสงแดดได้ดีที่สุด

เกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายใด สนใจที่จะปลูกฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า 3 สามารถติดต่อสอบถามและเยี่ยมชมแปลงฝ้าย พร้อมกระบวนการปั่นด้าย ทอผ้า ได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์

เนื้อหา